EUR07414 ฝรั่งเศส สวิต อิตาลี 2023 – 2024 9 วัน 6 คืน บิน EK (DEC-MAY24)
อัตราค่าบริการ |
|||||
วันเดินทาง | จำนวน | ไฟล์ทบินขาไป-ขากลับ | ผู้ใหญ่ | เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีพักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (ไม่มีเตียง) | พักเดี่ยวเพิ่ม |
04 – 12 ธันวาคม 2566 | 26+1 | EK373 BKKDXB 20.35-00.50
EK071 DXBCDG 03.20-08.00 – EK096 FCODXB 20.50-05.30 EK370 DXBBKK 08.55-18.05 |
99,999 | 98,999 | +12,000 |
26 ธ.ค. 66–03 ม.ค. 67 | 26+1 | 109,999 | 108,999 | +18,000 | |
27 ธ.ค. 66–04 ม.ค. 67 | 26+1 | 109,999 | 108,999 | +18,000 | |
28 ธ.ค. 66–05 ม.ค. 67 | 26+1 | 109,999 | 108,999 | +18,000 | |
28 ม.ค.–05 ก.พ. 2567 | 26+1 | 95,999 | 94,999 | +12,000 | |
11–19 ก.พ. 2567 | 26+1 | 95,999 | 94,999 | +12,000 | |
18 – 26 ก.พ. 2567 | 26+1 | 95,999 | 94,999 | +12,000 | |
11 – 19 มีนาคม 2567 | 26+1 | 95,999 | 94,999 | +12,000 | |
05 – 13 เมษายน 2567 | 26+1 | EK373 BKKDXB 21.00-00.50
EK071 DXBCDG 04.05-09.25 – EK096 FCODXB 22.05-05.55 EK370 DXBBKK 08.50-18.20 |
109,999 | 108,999 | +12,000 |
11 – 19 เมษายน 2567 | 26+1 | 109,999 | 108,999 | +12,000 | |
12 – 20 เมษายน 2567 | 26+1 | 109,999 | 108,999 | +12,000 | |
13 – 21 เมษายน 2567 | 26+1 | 109,999 | 108,999 | +12,000 | |
30 เม.ย.–08 พ.ค. 67 | 26+1 | 95,999 | 94,999 | +12,000 |
ราคารวมค่าวีซ่า ทิปไกด์ท้องถิ่น ค่าเข้าแต่ละสถานที่ตามโปรแกรมเรียบร้อยแล้ว
**ทิปหัวหน้าทัวร์ ไม่บังคับ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่าน**
อัตราค่าบริการรวม
- ตั๋วเรื่องบินไป-กลับพร้อมกรุ๊ป สายการบินตามที่ระบุในรายการ (ตั๋วหมู่คณะไม่สามารถสะสมไมล์ได้)
- ภาษีน้ำมันและภาษีตั๋วทุกชนิด (สงวนสิทธ์เก็บเพิ่มหากสายการบินปรับขึ้นราคาก่อนวันเดินทาง)
- ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋าตามที่สายการบินกำหนด (โหลดได้ท่านละ 1 ใบ) กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง Hand Carry น้ำหนักไม่เกิน 7 ก.ก. ท่านละ 1 ใบ
- ที่พักโรงแรมตามรายการที่ระบุ พักห้องละ 2-3 ท่าน (กรณีที่โรงแรมไม่มีห้องพักสำหรับ 3 ท่าน ลูกค้าจะต้องเพิ่มเงินเป็นห้องพักเดี่ยว)
- มื้ออาหารตามรายการระบุ (สงวนสิทธิ์ในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามสถานการณ์)
- น้ำดื่มบนรถวันละ 1 ขวด/ท่าน
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการที่ระบุ
- ค่ารถโค้ช รับ-ส่ง สถานที่ท่องเที่ยวตามารยการที่ระบุ
- ค่าธรรมเนียมการยื่นวีซ่าเชงเก้นท์ สถานทูตจะไม่คืนค่าวีซ่าให้ท่านไม่ว่าจะผ่านการพิจารณาหรือไม่ก็ตาม (กรณีมีวีซ่าแล้ว สามารถหักค่าวีซ่าท่านละ 3,500 บาท)
- ค่าทิปไกดท้องถิ่นและคนขับรถนำเที่ยวตามรายการ
- ประกันโควิด-19 วงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยบาล 50,000
- ประกันอุบัติเหตุวงเงิน 2,000,000 บาท (เป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
เงื่อนไขประกันการเดินทาง ค่าประกันอุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองเฉพาะกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ไม่คุ้มครองถึงการสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวและไม่คุ้มครองโรคประจำตัวและปัญหาสุขภาพอื่นๆของผู้เดินทาง
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
- ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติ
- ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทางในกรณีที่เกินกว่าสายการบินกำหนด
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ โทรศัพท์ โทรสาร อินเตอร์เน็ต มินิบาร์ ซักรีดที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
- ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน อุบัติภัยทางธรรมชาติ การประท้วง การจนาจล การนัดหยุดงาน การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่ประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัท
- หากหน่วยงานรัฐบาลไทย และ/หรือ ประเทศปลายทาง มีการปรับเปลี่ยนข้อกำหนดเกี่ยวกับการกักตัวเพิ่มเติม และ/หรือ เรียกตรวจโรคเพิ่มเติม ทางผู้เดินทางจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนเกินด้วยตัวเอง
- ค่าบริการพนักงานยกกระเป๋าทุกสถานที่
- ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ตามสินน้ำใจของทุกท่าน (ไม่รวมในทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถ)
เงื่อนไขการจองและการชำระเงิน
- ชำระมัดจำท่านละ 40,000 บาท หลังจากทำการจองภายใน 2 วันทำการ พร้อมส่งสำเนาหน้าหนังสือเดินทางที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันเดินทางกลับในโปรแกรมการเดินทาง
- ชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ 30 วัน ก่อนวันเดินทาง หากไม่มีการชำระเข้ามาถือว่าท่านสละสิทธิ์ในการเดินทาง และไม่สามารถขอเงินคืนได้ (กรณียังไม่ทราบผลวีซ่า ทางบริษัทฯขออนุญาตเก็บค่าทัวร์ส่วนที่เหลือตามที่กำหนด) ในกรณีช่วงเทศกาล วันหยุดนักขัตฤกษ์กรุณาชำระก่อนการเดินทาง 45 วัน
- สำหรับผู้เดินทางที่มีความจำเป็นต้องซื้อตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ หรือตั๋วโดยสารอื่นๆในการเดินทางเพื่อมาทำการยื่นวีซ่า หรือในวันเดินทางไป-กลับจากสนามบิน กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้งก่อนออกตั๋วเครื่องบินหรือตั๋วโดยสารอื่นๆ มิฉะนั้นทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่รับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
การชำระเงินเพื่อทำการจองโปรแกรมตามบัญชีที่ระบุ
ธนาคาร |
ชื่อบัญชี | สาขา | เลขบัญชี |
ธนาคารกรุงเทพ | จักรภัทร วิริยะกิตติ | บิ๊กซี ศรีนครินทร์ |
052-0-56649-8 |
-
Destination
-
Departure Time
20.35 น. -
Return Time
18.40 น.
Tour Plan
วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ • สนามบินดูไบ
17.00 น.พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9 ROW S เคาน์เตอร์ สายการบินเอมิเรตส์ Emirate Airline (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการเช็คอินให้แก่ทุกท่าน
20.35 น.ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EK 373 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ไฟล์บินอาจมีปรับเวลาไม่มีผลต่อโปรแกรมเดินทาง ตรวจสอบไฟล์ทบินได้ตามตารางอัตราค่าบริการ
วันที่สอง สนามบินดูไบ • กรุงปารีส • จัตุรัสทรอกาเดโร • ล่องเรือแม่น้ำแซน • ประตูชัยอาร์กเดอทรียงฟ์ • พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ • ห้างลา ซามาริแตง La Samaritaine
00.50 น.เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ (เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง)
03.20 น.ออกเดินทางสู่ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยเที่ยวบินที่ EK 71
08.00 น.เดินทางถึงเดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส ชาร์ล เดอ โกลด์ ประเทศฝรั่งเศส (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) นำท่านเดินทางสู่ กรุงปารีส เมื่องหลวงสุดโรแมนติกของประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายๆ คนที่แม้กระทั่งชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่นอกเมืองหรือต่างจังหวัด หรือต่างแคว้นแดนไกล กล่าวว่าตราบใดที่มีลมหายใจ ก็ขอให้ได้เห็นมหานครปารีสสักครั้ง ชมจุดถ่ายรูปหอไอเฟลที่สวยที่สุด ณ จัตุรัสทรอกาเดโร (TROCADÉRO) แต่เดิมบริเวณนี้เคยใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญๆ ของประเทศอยู่หลายครั้ง แต่โด่งดังด้วยเพราะทัศนียภาพที่ท่านจะสามารถเห็น หอไอไฟล (EIFFEL) ได้อย่างไม่มีอะไรมาบดบัง โดยหอส่งสัญญาแห่งนี้นั้น ถือเป็นสัญลักษณ์ของพาปารีสที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง หอไอเฟลนั้น ตั้งตามชื่อของสถาปนิกผู้ออกแบบ กุสตาฟ ไอเฟล เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ในงาน แสดงสินค้าโลก ในปี 1889 เมื่อมีภาพยนตร์เรื่องใดที่จะกล่าวถึงปารีส ก็จะจะต้องมีโครงสร้างเหล็กเจ้าของความสูง 324 เมตร ที่เคยเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก แห่งนี้อยู่ด้วยเสมอ ด้วยลักษณะที่แปลกตา สร้างความไม่คุ้นเคยต่อชาวปารีส ถึงขนาดมีการเรียกร้องให้รื้อทิ้งหลังจากงานสิ้นสุดลง แต่หอไอเฟลก็สามารถพิสูจน์ตัวเองและลบคำสบประหม่า จนกลายเป็นสถานที่แรกๆ ที่เมื่อมีคนพูดถึง นำท่าน ล่องเรือแม่น้ำแซน ชมบรรยากาศรอบเมืองปารีส เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน เมืองที่โรแมนติกที่สุดของโลกในอีกมุมหนึ่งโดยในระหว่างทางนั้นจะผ่านสถานที่สำคัญๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น สะพาน PONT DE L'ALMA สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 พิพิธภัณฑ์ออร์แซ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ รวมไปถึงอาสนวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีส ถือเป็นอีก 1 กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาปารีส
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น พร้อมพิเศษ หอยเอสคาโก้ ต้นตำหรับฝรั่งเศส พร้อมไวน์แดงจากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ ประตูชัยอาร์กเดอทรียงฟ์ (ARC DE TRIOMPHE) วงเวียนที่เชื่อมถนน12 เส้นของปารีสไว้ โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นสดุดีทหารฝรั่งเศสที่ร่วมรบในสงครามต่างๆ โดยเฉพาะในสงครามนโปเลียน เนื่องจากเริ่มสร้างในรัชสมัยของพระองค์หลังได้รับชัยชนะในสงครามยุทธการที่เอาสเทอร์ลิทซ์ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1805 นอกเหนือจากนั้น ประตูชัยแห่งนี้ก็ยังเป็นที่ฝังศพทหารนิรนามในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 อีกด้วย อาร์กเดอทรียงฟ์ มีความสูง 49.5 เมตร กว้าง 45 เมตร และหนาถึง 22 เมตร ทางทิศตะวันตกยังเป็นที่ตั้งของถนนสายที่โด่งดังที่สุดของโลกสายหนึ่ง นั่นคือ ถนนช็องเซลีเซ (CHAMPS-ÉLYSÉES) ถนนที่ได้ชื่อมาจากสวนสวรรค์ของเหล่าเทพปกรนัมกรีก ในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของการขยายพื้นที่สวยหย่อมของพระราชวังตุยเลอรี โดยเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรป ทรงมีพระราชดำรัสให้นำรูปแบบถนนช็องเซลีเซ มาสร้างเป็นถนนพระราชดำเนินกลางในกรุงเทพมหานคร ว่ากันว่าอัตราค่าเช่าพื้นที่บนถนนแห่งนี้มีมูลค่าสูงที่สุดในยุโรป และเป็นที่ตั้งของสินค้าแบรนด์ระดับโลกมากมาย จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปด้านหน้า พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (LOUVRE MUSEUM) เป็นสถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกจำนวนมาก นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวในปารีสที่ต้องไปเยือน จากนั้นนำท่านเข้าสู่ ห้างลา ซามาริแตง (La Samaritaine) ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1870 โดย Ernest Cognacq และ Marie Louise Jay จ้างออกแบบโดยสถาปนิกนามว่า Frantz Jourdain ตกแต่งแบบ Art Nouveau และ Art Déco เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่น พัฒนาจากร้านเสื้อผ้าขนาดเล็กจนขยายไปสู่ห้างสรรพสินค้า จากนั้นดำเนินกิจการเรื่องมา จนได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ในปี ค.ศ. 1990 โดยกระทรวงวัฒนธรรมฝรั่งเศส ห้างนี้เคยถูกปิดและพัฒนาปรับปรุงอยู่เรื่อยมา จนกระทั่งเปิดให้สาธารณชนเข้าชมอีกครั้งในวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 2021 กับคอนเซปต์ใหม่ ที่เน้นย้ำถึงเสน่ห์ของปารีส มีทั้ง แฟชั่น อาหาร และงานศิลปะ สินค้าต่างๆรวมแล้วกว่า 600 แบรนด์
ค่ำ อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน
ที่พัก Mercure La Defense หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่สาม พระราชวังแวร์ซายส์ • เมืองดิฌง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรมนำท่านเดินทางเข้าชม พระราชวังแวร์ซายส์ (Château de Versailles) หนึ่งในพระราชวังที่มีคนพูดถึงมากที่สุด และยังเป็น1ใน7สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบันอีกด้วย แต่เดิมนั้นเป็นเพียงเมืองเล็กๆที่พระมหากษัตริย์ราชวงศ์บูร์บงโปรดมาล่าสัตว์เท่านั้นแต่เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่14 ครั้งทรงพระเยาว์ เสด็จตามพระราชบิดามาล่าสัตว์ ทรงโปรดพื้นที่บริเวณนี้มากเมื่อทรงขึ้นครองราชย์นจึงมีพระราชดำรัสให้สร้างพระราชวังแห่งใหม่แทนพระราชวังลูฟท์ที่กรุงปารีสโดยมีพระราชประสงค์ให้เป็นพระราชวังที่สวยงามที่สุดในโลก ภายในพระราชวังนั้นประกอบไปด้วยห้องหับถึง 700 ห้องมีภาพวาด 6,123 ภาพและงานแกะสลักถึง 15,034 ชิ้นไฮไลท์สำคัญของพระราชวังแห่งนี้คงหนีไม่พ้นห้องกระจกซึ่งบริเวณผนังด้านขวานั้นประดับด้วยกระจกฉาบปรอทมากถึง 17 บาน แต่ละบานมีประกอบด้วยกระจก 21 แผ่นซึ่งในสมัยก่อนนั้นกระจกเป็นสิ่งที่มีราคาสูงมากเทียบเท่าทองคำเลยทีเดียว ซึ่งห้องกระจกแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่ในการลงนามสนธิสัญญาสงบศึกในสงครามโลกครั้งที่1 ระหว่างฝ่านสัมพันธมิตร และฝ่ายจักรวรรดิเยอรมัน ห้องกระจกแห่งแวร์ซายเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของไทยครั้งสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงส่งคณะทูตไปเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 นำโดยออกพระวิสุทธสุนทร ในวันที่ 1 กันยายนปี พ.ศ. 2229 (1686)นับเป็นการส่งคณะฑูตสำเร็จอย่างเป็นทางการครั้งแรกกับชาติยุโรปในประเทศไทย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีนนำท่านเดินทางสู่ เมืองดิฌง (DIJON) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชม.) ผ่านชมทัศนียภาพอันงดงามที่เต็มไปด้วยขุนเขาทะเลสาบ และดอกไม้ป่า ที่สวยสดงดงาม ที่จะทำให้ท่านตื่นตาตื่นใจ ตลอดการเดินทางจนทำให้ท่านหลับตาไม่ลง เป็นแห่งเมืองชุมทางรถไฟ และศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส และเป็นเมืองที่มีลักษณะคล้ายปารีสอย่างมาก เดินทางถึงเมืองดิฌง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารโรงแรม
ที่พัก Novotel Dijon Route des Grands Crus หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่สี่ เมืองลูเซิร์น • อนุสาวรีย์สิงโต • สะพานไม้ชาเปล • เมืองอินเทอลาเก้น • ถนน Hoheweg
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรมนำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ เมืองลูเซิร์น (Luzern) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) หนึ่งในเมืองที่งดงามที่สุดของประเทศ นำท่านถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงทหารหาญชาวสวิสผู้ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่จนวินาทีสุดท้าย อนุสาวรีย์นี้คือสัญลักษณ์สำคัญของลูเซิร์นที่ไม่มีนักท่องเที่ยวคนไหนพลาดมาที่นี่
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีนนำท่านชม สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง และได้ชื่อว่าเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ทอดยาวระหว่างแม่น้ำ Reuss โดยสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 จากนั้น ให้ท่านได้ชมความงามของสถาปัตยกรรมรอบๆตัวเมืองใน เขตเมืองเก่า (Oldtown) ด้วยตัวอาคารสไตล์ยุโรปผนวกกับร้านสมัยใหม่ ทำให้เป็นหนึ่งในความวิเศษของเขตนี้ จากนั้นเดินทางต่อไปยัง เมืองอินเทอลาเก้น (Interlaken) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 นาที) จุดศูนย์กลางของประเทศ ที่รายล้อมไปด้วย 4 ขุนเขา และ 2 ทะเลสาบ พาท่านเดินชม ความงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมือง พาท่านเดินชม ถนน Hoheweg จุดที่ครึกครื่นที่สุดในเมืองอินเทอลาเก้น ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าคุณภาพสวิสได้อยากหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Omega, Swatch ช็อคโกแลตสวิสที่ขึ้นชื่อ หรือแม้แต่เสื้อผ้า เครื่องประดับก็ยังมีให้ท่านเลือกสรรได้ตลอดถนนเลยทีเดียว
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น พิเศษเมนูสวิสชีสฟองดู
ที่พัก Hotel Central Continental AG หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่ห้า เมืองกรินเดอวาลด์ • กระเช้า Eiger Express • อุโมงค์น้ำแข็ง • อุโมงค์โลกอัลไพน์ • Jungfrau Panorama view • เมืองเลาเทอร์บรุนเนน • มิลาน
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมนำท่านสู่ เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) เมืองอันเป็นจุดเริ่มต้นในการพิชิตยอดเขาจุงฟราว Top Of Europe ด้วยทัศนียภาพที่เป็นหุบเขาที่มีบ้านสไตล์สวิสชาเลย์ตั้งอยู่โดยรอบ ทำให้มีความสวยงามจนเป็นเหมือนหน้าตาของสวิสเซอร์แลนด์ที่คุ้นเคย ใหม่ล่าสุด!!! พาท่านสู่สถานีกรินเดอวาลด์ เพื่อพาท่านขึ้น กระเช้า Eiger Express ที่เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา โดยจะทำให้ท่านประหยัดเวลาในการพิชิตเขาจุงฟราวเร็วขึ้นถึง 47 นาที เพื่อให้ท่านได้มีเวลาเพลิดเพลินบน Top Of Europe พาท่านชม อุโมงค์น้ำแข็ง (Ice Palace) ที่มีอายุเก่าแก่ 1,000 ปี ธารน้ำแข็งลึกเขาไปกว่า 30 เมตร มีประติมากรรมน้ำแข็งอยู่อย่างมากมาย และคงอุณหภูมิอยู่ที่ -3 องศา ตลอดทั้งปี เก็บภาพความสวยงามและยิ่งใหญ่ของของธารน้ำแข็ง Aletsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ชม อุโมงโลกอัลไพน์ (ALPINE SENSATON) ที่จัดแสดงวิถีชีวิต วัฒนธรรมและธรรมชาติของชาวเมือง นอกจากนั้นหากมีเวลาแนะนำให้ท่านชม พิพิธภัณฑ์ช็อคโกแลต LINDT และเลือกซื้อกลับเป็นไปเป็นของฝากจากร้านช็อคโกแลตที่สูงที่สุดในโลก และนำท่านขึ้นสู่ JUNGFRAU PANORAMA VIEW จุดสูงสุดของสถานี ที่ 3,571 เมตร ให้ท่านได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บนยอดเขาจุงฟราว ให้ท่านเต็มอิ่มกับบรรยากาศของทิวทัศน์สุดอลังการนำท่านลงสู่อีก 1 เมืองชานเขาจุงฟราว เมืองเลาเทอร์บรุนเนน (Lauterbrunnen) เดินทางด้วยรถไฟไต่เขาแสนคลาสสิก ระหว่างทางท่านสามารถมองเห็น น้ำตกชเตาบ์บาค (Staubbach) ที่สูงกว่า 300 เมตร มุมสุดอลังการกับริ้วน้ำตกที่แทรกผ่านหน้าผาสูง โดยมีเบื้องล่างเป็นบ้านเรือนสลับทุ่งหญ้า ที่มองกี่ครั้งก็ไม่เบื่อโดยท่านจะสามารถมองเห็นได้ระหว่างนั่งรถไฟ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ มิลาน (MILAN) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชม.) เมืองสำคัญทางภาคเหนือของอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี ชื่อเมืองมิลานมาจากภาษาเซลต์คำว่า MID-LAN ซึ่งหมายถึงอยู่กลางที่ราบ มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารโรงแรม
ที่พัก NH Milano Fiera หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่หก มหาวิหารมิลาน • กัลเลรีอาวิตโตรีโยเอมานูเอเลเซ คอนโด • เกาะเวนิส • จัตุรัสเซ็นท์ มาร์ค • มหาวิหารซันมาร์โก • พระราชวังดอร์จ • หอระฆังซันมาร์โก • สะพานถอนหายใจ • สะพานรีอาลโต้ • เวนิสเมสเตร้
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมนำท่านถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า มหาวิหารมิลาน (Duomo di Milano) หนึ่งในโบสถ์ศริสต์สถาปัตยกรรมกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายใน วิหารเชื่อกันว่ามีการบรรจุหมุดตรึงไม้กางเขนของจริงที่ใช้ในการประหารชีวิตพระเยซู บริเวณด้านหน้าตกแต่งด้วยรูปสลักหินอ่อนที่วิจิตรเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนั้นหากมีเวลาให้ท่านได้เพลิดเพลินกับช้อปปิ้งมอลล์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปที่ กัลเลรีอาวิตโตรีโยเอมานูเอเลเซ คอนโด (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่อัดแน่นไปด้วย แบรนด์ชั้นนำระดับโลก อาทิ Prada, Versace, Armani, Dolce & Gabbana, Valentino รวมไปถึงแบรนด์เนมที่คุ้นหู อีกมากมายอย่าง Gucci, LOUIS VUITTON, Swarovski
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวนิสเมสเตร้ (Venice Mestre) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.) ฝั่งแผ่นดินใหญ่เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ (Tronchetto) นำท่านล่องเรือผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส สู่เกาะเวนิสหรือเวเนเซีย(VENEZIA) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณ ซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส นำท่านเดินชมความงามของเกาะเวนิส จากนั้นนำท่านถ่ายรูปบริเวณ จัตุรัสเซ็นท์ มาร์ค (St.Mark’s Square) ที่จักรพรรดินโปเลียนยกย่องว่าเป็นห้องรับแขกที่สวยที่สุดของยุโรป และยังเป็นที่ตั้งของ มหาวิหารซันมาร์โก (San Marco Basillica) มหาวิหารประจำเขตอัครบิดรเวนิส สร้างขึ้นในแบบสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน เนื่องจากถูกทำลายไปเกือบหมดสิ้นในครั้งที่ออกโตมันเข้ายึด ซึ่งภายในโบสถ์นั้นจะมีภาพโมเสกบอกเล่าเรื่องราวในครั้งนั้นอยู่ โดยเซ็นท์มาร์โกถือว่าเป็นนักบวชที่สำคัญในการเผยแพร่ศาสนาในสมัยศตวรรษที่ 5 สำหรับตัวมหาวิหารจะเชื่อมกับ พระราชวังดอร์จ(Doge’s Palace) พระราชวังแบบเวนิส-โกธิคที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประทับของยุคแห่งเวนิสครั้งที่เมืองนี้ยังเป็น สาธารณะรัฐเวนิส ก่อนได้รับการปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์และเปิดอย่างเป็นทางการในปี 1923 และยังมี หอระฆังซันมาร์โก (St Mark’s Campanile) หอระฆังสูง 98.6 เมตร โดยอิงการสร้างจากรูปแบบเดิมในปี 1514 และพังทลายลงในปี 1902 ไม่ไกลกันจะเป็นที่ตั้งของ สะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs) สะพานซุ้มโค้งที่เชื่อมระหว่างพระราชวังดอร์ดและเรือนจำ นำท่านชมบริเวณ สะพานรีอาลโต้ (Rialto Bridge) สะพานข้ามคลองหลักอันเก่าแก่ที่สุดของเวนิส รายล้อมไปด้วยร้านค้าต่างๆ ถ่ายภาพกับจุดชมวิวบนสะพาน ที่ท่านสามารถมองเห็น GRAND CANAL คลองที่ใหญ่ที่สุด ผ่ากลางเกาะเวนิส ชมวิถีชีวิตกลางสายน้ำของชาวท้องถิ่นที่ใช้คลองแทนถนน แต่เรื่องที่ทำสะพานนี้โด่งดังที่สุดคงหนีไม่พ้น นักรักบันลือโลกแห่งเวนิสอย่าง จิอาโคโม จิโรลาโม คาสโนวา เป็นเพียงคนเดียวที่สามารถออกจากเรือนจำแห่งนี้ได้ โดยเรื่องราวของชายหนุ่มมากด้วยวาทะศิลป์คนนี้ถูกตีพิมพ์และโด่งดังในปี 1855 และถูกทำเป็นภาพยนตร์ในปี 2005 **หมายเหตุ ทั้งนี้ไม่รวมค่านั่งเรือกอนโดล่า หากท่านสนใจนั่งเรือกอนโดล่า สามารถแจ้งทางหัวหน้าทัวร์เพื่อประสานงานให้ได้ทั้งนี้ไม่แนะนำให้ท่านติดต่อกับเรือเองเพื่อความปลอดภัยของท่านเนื่องจากอาจมีมิจฉาชีพแอบแฝงตัวมา จากนั้นนำท่านล่องเรือกลับขึ้นสู่ฝั่งเมสเตร้
เย็น บริการอาหารเย็น ด้วยเมนู เมนูสปาเก็ตตี้เส้นหมึกดำเวนิส
ที่พัก Hotel Novotel Venezia Mestre Castellana หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่เจ็ด เมืองปิซ่า • จัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม • หอเอนเมืองปีซ่า • กรุงโรม
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมเดินทางสู่ เมืองปิซ่า (Pisa) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชม.) แคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี อยู่ทางตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ ประมาณ 100 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซียนาปรมาณ 130 กิโลเมตร จตุรัสดูโอโมแห่งปิซาได้รับเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ. 1987
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่นนำท่าน เข้าชม จัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (Piazza del Duomo Pisa) ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของเมือง ซึ่งจัตุรัสแห่งนี้จะประกอบไปด้วย หอศีลจุ่ม วิหาร และหอระฆัง ซึ่งที่นี่มีหอระฆังที่โด่งดังระดับโลก นั้นคือ หอระฆังเอน แห่งเมืองปิซ่า นำท่านชมบริเวณรอบหอระฆังแห่งนี้พร้อมเก็บรูปเป็นที่ระลึกกับ หอเอนเมืองปีซ่า (LEANING TOWER OF PISA) หอระฆังทรงกระบอก 8 ชั้น โดยเอกลักษณ์และสาเหตุที่ทำให้หอระฆังแห่งนี้ได้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนั้นคือการที่ตัวอาคารมีลักษณะเอียงไปทางเหนือประมาณ 3.97 องศา หอเอนแห่งปิซ่าแรกเริ่มสร้างในปี 1174 แต่เมื่อสร้างขึ้นไปเพียง 3 ชั้น ฐานอาคารก็เกิดการทรุดตัวลง เนื่องจากเนื้อดินในบริเวณนี้ไม่มีชั้นหินแทรก ประกอบกับตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำอาร์โน ทำให้ดินมีความชื้นและเหลวกว่าปกติ จนทำให้ต้องยุติการก่อสร้างไปกว่า 94 ปี จนกระทั่งปี 1272 สถาปนิกนาม จีโอวานี ดี ซีโมเน่ (Giovanni di Simone) ได้มาสานต่อด้วยเทคนิคการสร้างให้เพดานไม่เท่ากันเพื่อรักษาอาหารให้สมดุล แต่ก็ต้องยุติการก่อสร้างในปี 1284 จากภัยสงคราม ก่อนชั้นที่ 7 ของอาคารจะเสร็จในปี 1319 และตัวหอระฆังถูกเติมจนเสร็จสิ้นเมื่อปี 1372 นับเป็นเวลาร่วม 199 ปี นับจากวันที่เริ่ม นำท่านเดินทางสู่ศูนย์กลางการปกครองของอิตาลีที่ กรุงโรม (Rome) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม.) เมืองหลวงของประเทศอิตาลี และเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโรมันที่รุ่งเรืองถือเป็นรากฐานของสังคมและวัฒนธรรมของชาติยุโรป ไม่ว่าจะเป็น ปฏิทินตามหลักสุริยะคติ กฎหมาย การประชุมในสภาในรูปแบบสาธารณรัฐ เป็นต้น
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก Novotel Roma Est หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน
วันที่แปด นครรัฐวาติกัน • มหฟาวิหารนักบุญปีเตอร์ • จัตุรัสนักบุญปีเตอร์ • โคลอสเซี่ยม • โรมันฟอรั่ม • น้ำพุเทรวี่ • บันไดสเปน • ท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมเดินทางสู่ นครรัฐวาติกัน (STATE OF THE VATICAN CITY) นครแห่งคริสตจักรที่อยู่ในกรุงโรม ถือเป็นศูนย์กลางของคริสต์ศาสนิกชน นิกายโรมันคาทอลิก เป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา และประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญ นำท่านถ่ายรูปกับ มหาวิหารนักบุญปีเตอร์ ( ST. PETER’ BASILICA) ศาสนสถานของคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นที่ฝังพระศพของพระสันตะปาปาพระองค์แรกที่ถูกลงโทษประหารชีวิตด้วยการตรึงไม้กางเขนในสมัยของจักรพรรดิเนโร เมื่อปี ค.ศ. 68 ถือเป็นศูนย์รวมทั้งทางกายและทางใจของวาติกัน มีประติมากรรมชื่อก้องโลกอย่าง ปีเอต้า (Pietà) เป็นรูปปั้นพระแม่นารีย์ทรงโอบอุ้มพระเยซูหลังจากสิ้นพระชนม์ ซึ่งทำจากหินอ่อนเพียงก้อนเดียวและใช้เวลาในการแกะสลัก 7 ปี บริเวณด้านหน้าคือ จัตุรัสนักบุญปีเตอร์ (St.Peter's Square) ออกแบบโดย จาน ลอเรนโซ เบอร์นินี อีกหนึ่งประติมากรผู้ได้ฉายาว่า สามารถเสกหินอ่อนให้หายใจได้ จัตุรัสสามารถจุคนได้ประมาณ 60,000 คน ตรงกลางมีเสาโอบีสิสหินแกรนิตแดง สูง 25.5 เมตร จากอียิปต์ ซึ่งเป็นการแสดงถึงแสงยานุภาพของโรมันที่มีต่อประเทศในยุโรปและแถบเมดิเตอร์เรเนียนในขณะนั้น (ในกรณีมีพิธีด้านใน อาจจะไม่ได้รับการเข้าชม) จากนั้นนำท่านแวะถ่ายบริเวณด้านนอก โคลอสเซี่ยม (COLOSSEUM) หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า ฟราเวียนแอมฟิเธียเตอร์ อีก 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ต้นแบบของสนามกีฬาของโลก เป็นแหล่งบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในโรมัน สร้างขึ้นในสมัยของจักพรรดิเวสปาเซียนในปี ค.ศ. 70 ก่อนเปิดอย่างเป็นทางการในอีก 10 ปีต่อมาในสมัยพระเจ้าไททัส เป็นสนามกีฬาที่จะเป็นการประชันการต่อสู่ระหว่างเหล่านักรบกลาดิเอเตอร์ด้วยกันเอง และกับสัตว์ดุร้าย เช่น สิงโต ช้าง แรด เป็นต้น โดยบ้างก็กล่าวกันว่าการต่อสู้ในโคลอสเซี่ยมทำให้สัตว์บางชนิดแทบจะศูนย์พันธุ์เลยทีเดียว การสร้างอาคารแบบอัฒจันทร์กลม 3 ชั้นขนาดใหญ่แห่งนี้ยังถือว่าเป็นการผลิตซีเมนต์แห่งแรกๆ ของโลกอีกด้วย บริเวณใกล้กันท่านสามารถเดินถ่ายรูปด้านหน้า กับ โรมันฟอรั่ม (ROMAN’S FORUM) อดีตศูนย์กลางทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของอาณาจักรโรมัน โดยบริเวณนี้นั้นเป็นที่ตั้งของประตูชัย 2 แห่ง ที่เป็นต้นแบบของฝรั่งเศส นั่นคือ ประตูชัยคอนสแตนติน สร้างขึ้นในครั้งที่พระเจ้าคอนสแตนตินได้ชัยชนะเหนือพระเจ้าแมกเซนเทียส และประตูชัยไททัสที่สร้างขึ้นหลังจากได้รับชัยชนะเหนือเมืองเยลูซาเล็มในปีค.ศ. 81
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาท้องถิ่นด้วย เมนู พิซซ่าสูตรอิตาลีแท้ !!นำท่านชมความงามของ น้ำพุเทรวี่ (TREVI FOUNTAIN) ที่มักกล่าวกันว่าเป็นน้ำพุที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งใน โลก นำท่านเดินชมและถ่ายรูปบริเวณ บันไดสเปน (SPANISH STEPS) บันไดที่กว้างที่สุดในยุโรป เชื่อมระหว่างจัตุรัสสปังนา กับโบสถ์ทรีนิตี้ นอกจากนั้นยังมีสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายให้ท่านได้เลือกสรรค์อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น Gucci, Louis Vuitton, Prada, Longchamp, Chanel, DIOR, Balenciaga เป็นต้น แต่หากสนใจชิมกาแฟเอสเปรสโซ่ต้นตำหรับ ก็มีร้านกาแฟมากมายให้ท่านได้ลิ้มลอง
เย็น อิสระอาหารเย็น เพื่อความสะดวกและไม่เป็นการรบกวนเวลาช้อปปิ้งของท่านได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน (Aeroporto Leonardo da Vinci di Fiumicino) เพื่อให้ท่านได้มีเวลาทำการคืนภาษี (Tax Refund)
20.50 น.ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบิน เที่ยวบินที่ EK96 **บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง ** ไฟล์บินอาจมีปรับเวลาไม่มีผลต่อโปรแกรมเดินทาง ตรวจสอบไฟล์ทบินได้ตามตารางอัตราค่าบริการ
05.30 น.เดินทางถึง สนามบินนานาชาติดูไบ ให้ท่านผ่อนคลายอริยบทระหว่างรอเวลาเปลี่ยนเครื่อง
วันทีเก้า ดูไบ • สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ
08.55 น.เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 372
18.05 น.เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
อัตราค่าบริการ
อัตราค่าบริการ |
|||||
วันเดินทาง | จำนวน | ไฟล์ทบินขาไป-ขากลับ | ผู้ใหญ่ | เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีพักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (ไม่มีเตียง) | พักเดี่ยวเพิ่ม |
04 – 12 ธันวาคม 2566 | 26+1 | EK373 BKKDXB 20.35-00.50 EK071 DXBCDG 03.20-08.00 - EK096 FCODXB 20.50-05.30 EK370 DXBBKK 08.55-18.05 | 99,999 | 98,999 | +12,000 |
26 ธ.ค. 66–03 ม.ค. 67 | 26+1 | 109,999 | 108,999 | +18,000 | |
27 ธ.ค. 66–04 ม.ค. 67 | 26+1 | 109,999 | 108,999 | +18,000 | |
28 ธ.ค. 66–05 ม.ค. 67 | 26+1 | 109,999 | 108,999 | +18,000 | |
28 ม.ค.–05 ก.พ. 2567 | 26+1 | 95,999 | 94,999 | +12,000 | |
11–19 ก.พ. 2567 | 26+1 | 95,999 | 94,999 | +12,000 | |
18 – 26 ก.พ. 2567 | 26+1 | 95,999 | 94,999 | +12,000 | |
11 – 19 มีนาคม 2567 | 26+1 | 95,999 | 94,999 | +12,000 | |
05 – 13 เมษายน 2567 | 26+1 | EK373 BKKDXB 21.00-00.50 EK071 DXBCDG 04.05-09.25 - EK096 FCODXB 22.05-05.55 EK370 DXBBKK 08.50-18.20 | 109,999 | 108,999 | +12,000 |
11 – 19 เมษายน 2567 | 26+1 | 109,999 | 108,999 | +12,000 | |
12 – 20 เมษายน 2567 | 26+1 | 109,999 | 108,999 | +12,000 | |
13 – 21 เมษายน 2567 | 26+1 | 109,999 | 108,999 | +12,000 | |
30 เม.ย.–08 พ.ค. 67 | 26+1 | 95,999 | 94,999 | +12,000 |
อัตราค่าบริการรวม
- ตั๋วเรื่องบินไป-กลับพร้อมกรุ๊ป สายการบินตามที่ระบุในรายการ (ตั๋วหมู่คณะไม่สามารถสะสมไมล์ได้)
- ภาษีน้ำมันและภาษีตั๋วทุกชนิด (สงวนสิทธ์เก็บเพิ่มหากสายการบินปรับขึ้นราคาก่อนวันเดินทาง)
- ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋าตามที่สายการบินกำหนด (โหลดได้ท่านละ 1 ใบ) กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง Hand Carry น้ำหนักไม่เกิน 7 ก.ก. ท่านละ 1 ใบ
- ที่พักโรงแรมตามรายการที่ระบุ พักห้องละ 2-3 ท่าน (กรณีที่โรงแรมไม่มีห้องพักสำหรับ 3 ท่าน ลูกค้าจะต้องเพิ่มเงินเป็นห้องพักเดี่ยว)
- มื้ออาหารตามรายการระบุ (สงวนสิทธิ์ในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามสถานการณ์)
- น้ำดื่มบนรถวันละ 1 ขวด/ท่าน
- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการที่ระบุ
- ค่ารถโค้ช รับ-ส่ง สถานที่ท่องเที่ยวตามารยการที่ระบุ
- ค่าธรรมเนียมการยื่นวีซ่าเชงเก้นท์ สถานทูตจะไม่คืนค่าวีซ่าให้ท่านไม่ว่าจะผ่านการพิจารณาหรือไม่ก็ตาม (กรณีมีวีซ่าแล้ว สามารถหักค่าวีซ่าท่านละ 3,500 บาท)
- ค่าทิปไกดท้องถิ่นและคนขับรถนำเที่ยวตามรายการ
- ประกันโควิด-19 วงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยบาล 50,000
- ประกันอุบัติเหตุวงเงิน 2,000,000 บาท (เป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
- ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติ
- ค่าน้ำหนักกระเป๋าเดินทางในกรณีที่เกินกว่าสายการบินกำหนด
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ โทรศัพท์ โทรสาร อินเตอร์เน็ต มินิบาร์ ซักรีดที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
- ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน อุบัติภัยทางธรรมชาติ การประท้วง การจนาจล การนัดหยุดงาน การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่ประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัท
- หากหน่วยงานรัฐบาลไทย และ/หรือ ประเทศปลายทาง มีการปรับเปลี่ยนข้อกำหนดเกี่ยวกับการกักตัวเพิ่มเติม และ/หรือ เรียกตรวจโรคเพิ่มเติม ทางผู้เดินทางจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนเกินด้วยตัวเอง
- ค่าบริการพนักงานยกกระเป๋าทุกสถานที่
- ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ตามสินน้ำใจของทุกท่าน (ไม่รวมในทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถ)
เงื่อนไขการจองและการชำระเงิน
- ชำระมัดจำท่านละ 40,000 บาท หลังจากทำการจองภายใน 2 วันทำการ พร้อมส่งสำเนาหน้าหนังสือเดินทางที่มีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันเดินทางกลับในโปรแกรมการเดินทาง
- ชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ 30 วัน ก่อนวันเดินทาง หากไม่มีการชำระเข้ามาถือว่าท่านสละสิทธิ์ในการเดินทาง และไม่สามารถขอเงินคืนได้ (กรณียังไม่ทราบผลวีซ่า ทางบริษัทฯขออนุญาตเก็บค่าทัวร์ส่วนที่เหลือตามที่กำหนด) ในกรณีช่วงเทศกาล วันหยุดนักขัตฤกษ์กรุณาชำระก่อนการเดินทาง 45 วัน
- สำหรับผู้เดินทางที่มีความจำเป็นต้องซื้อตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ หรือตั๋วโดยสารอื่นๆในการเดินทางเพื่อมาทำการยื่นวีซ่า หรือในวันเดินทางไป-กลับจากสนามบิน กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้งก่อนออกตั๋วเครื่องบินหรือตั๋วโดยสารอื่นๆ มิฉะนั้นทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่รับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
การชำระเงินเพื่อทำการจองโปรแกรมตามบัญชีที่ระบุ
ธนาคาร |
ชื่อบัญชี | สาขา | เลขบัญชี |
ธนาคารกรุงเทพ | จักรภัทร วิริยะกิตติ | บิ๊กซี ศรีนครินทร์ |
052-0-56649-8 |
Tour Location
Gallery
Reviews Scores and Score Breakdown
-